วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน getrandmax()

ใช้หาค่าสูงสุดที่ได้จากการสุ่มตัวเลข

 รูปแบบ

getrandmax()

ตัวอย่าง

echo getrandmax();
// 26457 

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน chop()

ใช้ในการตัดช่องว่างท้ายข้อความออกไป


รูปแบบ


chop(สตริง)


ตัวอย่าง


echo chop(" My Name is Pizza ");
//" My Name is Pizza"

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน ord()


ใช้ในการแปลงตัวอักษรเป็นรหัส  ASCII
รูปแบบ
ord(สตริง)
ตัวอย่าง
echo ord("a");
// 97
echo ord("b");
// 98
echo ord("c");
// 99
echo ord("d");
// 100
echo ord("e");
// 101

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน sha1()

ใช้ในการเข้ารหัส 40 หลัก

รูปแบบ

sha1(สตริง)

ตัวอย่าง

$email = 'pizza@hotmail.com';
$password  = '1234';
echo sha1($email.$password);
// fb993fd7c8aa82f1da1389891823f63cdb4db8ba

ฟังก์ชัน strpos()

ใช้ในการหาตำแหน่งอักษรที่ต้องการค้นหา

รูปแบบ

strpos(สตริง,ข้อความที่ต้องการหา)

ตัวอย่าง


echo strpos('pizzapanda', 'i');
// 1

ฟังก์ชัน min()

ใช้ในการหาค่าที่น้อยที่สุดในอาร์เรย์

รูปแบบ

min(อาร์เรย์)

ตัวอย่าง 


echo min(9, 3, 10, 6, 7);
// 3

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน sin()

ใช้ในการหาค่าของ sine

รูปแบบ

sin(ค่าที่ต้องการหาค่า)

ตัวอย่าง

echo sin(60)
// -0.304810621102 

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน isset()

ใช้ในการตรวจสอบว่าตัวแปรมีการประกาศค่าตัวแปรหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นค่าว่างก็ตาม

รูปแบบ

isset($ตัวแปร);

ตัวอย่าง


$str1 = '';
$str2 = 'pizza';

if(isset($str1))
{
  echo 'Have var';
}
else
{
  echo 'No var';
}
// Have var


if(isset($str2))
{
  echo 'Have var';
}
else
{
  echo 'No var';
}

// Have var

if(isset($str3))
{
  echo 'Have var';
}
else
{
  echo 'No var';
}

// No var

ฟังก์ชัน empty()

ใช้ในการตรวจสอบว่าตัวแปรมีค่าหรือไม่ โดยจะ return ค่าเป็น true เมื่อตัวแปรดังกล่าวมีค่า และ return ค่าเป็นfalse เมื่อตัวแปรดังกล่าวไม่มีค่า


รูปแบบ


empty($ตัวแปร);

ตัวอย่าง

$str = 'pizza';
$str2 = '';

if(empty($str))
{
  echo 'Have value';
}
else
{
  echo 'No value';
}
// Have value


if(empty($str2))
{
  echo 'Have value';
}
else
{
  echo 'No value';

}
// No value

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน pow()

ใช้ในการหาค่าเลขยกกำลัง


รูปแบบ


pow(ตัวเลขฐาน,ตัวเลขยกกำลัง)

ตัวอย่าง

echo pow(2, 8);
//256

echo pow(2, 2);
//4

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน max()

ใช้สำหรับหาค่าสูงสุดในอาร์เรย์

รูปแบบ

max(อาร์เรย์)

ตัวอย่าง



echo max(4, 5, 6, 7); 
// 7
echo max(array(2, 4, 5))
// 5
echo max(7, 'pizza');      
//7

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน substr()

ตัดตำแหน่งตัวอักษรที่ต้องการ

รูปแบบ

substr(สตริง,ตัวเลขเริ่มต้น,ตัวเลขจำนวนอักษร)

ตัวอย่าง



echo substr("pizza", -1);     
// a
echo substr("pizza", -2);    
// za
echo substr("pizza", -3, 1)
// z

ฟังก์ชัน strstr()

ใช้ในการตัดข้อความบางส่วนตั้งแต่ตัวแรกที่กำหนดในการเริ่มตัดข้อความจนถึงตัวสุดท้ายของสตริง

รูปแบบ

strstr(สตริง,ตัวที่เริ่มตัดข้อความ)

ตัวอย่าง



$str  = 'pizza@panda';
$newStr = strstr($str, '@');
echo $newStr
 // @panda

ฟังก์ชัน chop()

ตัดช่องว่างท้ายข้อความออกไป


รูปแบบ


chop(สตริง)

ตัวอย่าง

$str = " My Name is Pizza ";
$newStr =  chop($str);

echo $newStr;
// $newStr จะเท่ากับ " My Name is Pizza"

ฟังก์ชัน join()

ใช้รวมอาร์เรย์ให้เป็นข้อความ

รูปแบบ

join(สตริง,อาร์เรย์)

ตัวอย่าง


$array = array('cat', 'dog', 'fish');
$str = join(",", $array);
echo $str;  
// cat,dog,fish

ฟังก์ชัน strrev()

เป็นฟังก์ชันที่ใช้กลับลำดับของตัวอักษรในสตริง

รูปแบบ

strrev(สตริง)

ตัวอย่าง

echo strrev("pizza");  
// azzip

ฟังก์ชัน addslashes()

ใช้เพิ่มเครื่องหมาย backslash (\) ให้กับ
double quote (”) , single quote (’) และ backslash (\)

รูปแบบ

addslashes(สตริง)

ตัวอย่าง

$str= "I'm pizza "
$newStr = addslashes($str);
echo $newStr;
//  I/'m pizza

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน ucfirst ()

ใช้แปลงตัวอักษรตัวแรกสุดของข้อความให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่

รูปแบบ

ucfirst(สตริง);

ตัวอย่าง

echo ucfirst("pizza");
// Pizza 

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน nl2br()

ใช้แทนที่ \n ด้วย <br /> ใช้ในการขึ้นบรรทัดใหม่

รูปแบบ

nl2br(สตริง)

ตัวอย่าง
echo nl2br("pizza\n panda");
// pizza
   panda

ฟังก์ชัน strtolower()

ใช้แปลงข้อความให้เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด

รูปแบบ
strtolower(สตริงที่ต้องการแปลงให้เป็นตัวเล็ก)

ตัวอย่าง

$str = "I'M PIZZA";
$str = strtolower($str);
echo $str
// i'm pizza

ฟังก์ชัน strtoupper()

ใช้แปลงข้อความให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด

รูปแบบ

strtoupper(สตริงที่ต้องการแปลงให้เป็นตัวใหญ่)

ตัวอย่าง


$str = "i'm pizza";
$str = strtoupper($str);
echo $str;

// I"M PIZZA

วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน str_replace()

ใช้เปลี่ยนสตริงที่ค้นให้เป็นสตริงที่เราต้องการแทนที่ 

รูปแบบ

str_replace(สตริงที่ค้นหา, สตริงที่ต้องการแทนที่คำที่ค้นหา, สตริงต้นฉบับ)

ตัวอย่าง

$str = "pinyadapizza";
echo str_replace("pizza","panda",$str);    




//ผลลัพธ์จะเท่ากับ pinyadapanda


วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน trim()

ใช้ในการตัดช่องว่างให้กับสตริง

ตัวอย่าง

$str1 = " pizza        ";
$str2 = trim($str1);


$str2 จะมีค่าเท่ากับ $str1 แต่ str2 จะตัดช่องว่างออก คือ $str2 ="pizza";

ฟังก์ชัน round()

ใช้ในการปัดเศษทศนิยมโดยปัดเศษใหเใกล้เคียงกับเลขจำนวนเต็มที่สุด ถ้าทศนิยมเท่ากับ 0.5 ขึ้นไปจะถูกปัดขึ้น ถ้าน้อยกว่า 0.5 จะถูกปัดลง

ตัวอย่าง

echo round(2.7);
// 3

echo round(2.1);
// 2

echo round(2.000001);
// 2

ฟังก์ชัน ceil()

ใช้ในการปัดเศษเลขทศนิยมขึ้นโดยไม่สนใจว่าเลขจะใกล่เคียงกับตัวเลขใดมากที่สุด

ตัวอย่าง

echo ceil(2.777);

// 3

echo ceil(2.011);
// 3

echo ceil(2.999);
// 2

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟังก์ชัน floor()

ใช้ปัดเศษทศนิยมทิ้งโดยไม่คำนึงว่า เศษทศนิยมจะเกิน 0.5 หรือไม่

รูปแบบ

floor(ตัวเลขแบบทศนิยมที่ต้องการปัดเศษทิ้ง)

ตัวอย่าง

$number1 = 27.876;
$number2 = 27.023;
print floor($number1);

// 27
print floor($number2);
// 27

หรือจะใส่ตัวเลขไปตรงๆเลยก็ได้ เช่น

echo floor(7.777);
// 7

ฟังก์ชัน strlen()

ใช้หาค่าความยาวของสตริง
        
รูปแบบ

strlen(สตริงที่ต้องการหาค่าความยาว)

ตัวอย่าง 

$str = 'pizza';
echo strlen($str);
// 5

$str = ' ab cd ';
echo strlen($str); 
// 7

ฟังก์ชัน implode()

ใช้นำข้อมูลในอาร์เรย์มาประกอบรวมกันเป็นสตริง

รูปแบบ

implode(สัญลักษณ์ที่ใช้แบ่ง, อาร์เรย์)

ตัวอย่าง

$array = array('cat', 'dog', 'bat');
$str =  implode(",", $array);
echo $str;    
//  cat,dog,bat